คลังข้อมูลดิจิทัลมิวเซียมสยาม

สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ

คลังข้อมูลดิจิทัลมิวเซียมสยาม รวบรวมองค์ความรู้ ด้วยสื่อที่หลากหลาย ส่งเสริมการเรียนรู้ การค้นคว้าฐานองค์ความรู้ที่อาจเป็นแรงบันดาลใจ ให้เกิดการสืบค้นในด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์วิทยา มานุษยวิทยา ตลอดจนศาสตร์แขนงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและสังคมไทย

"คลังข้อมูลดิจิทัลแห่งนี้มิได้เป็นเพียงแค่แหล่งรวบรวมข้อมูล แต่ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงองค์ความรู้ในอดีตกับปัจจุบัน"

ค้นหาสิ่งที่สนใจ

Communities in DSpace

Select a community to browse its collections.

Now showing 1 - 6 of 6
Loading...
Thumbnail Image

Museum Readings

รวบรวมรายชื่อและตัวอย่างเนื้อหาของหนังสือด้านพิพิธภัณฑ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

Loading...
Thumbnail Image

MuseumSiam Researches

รวบรวมงานวิจัยที่น่าสนใจภายใต้ความดูแลของมิวเซียมสยาม

Loading...
Thumbnail Image

MuseumSiam Recommendations

รวบรวมหนังสือแนะนำด้านพิพิธภัณฑ์และประวัติศาสตร์ พร้อมสรุปเนื้อหาแบบย่อ โดยบรรณารักษ์และชาวมิวเซียมสยาม

Loading...
Thumbnail Image

MuseumSiam Resources

รวบรวมทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่างๆ ที่ผลิตหรือร่วมผลิตโดยมิวเซียมสยาม

Loading...
Thumbnail Image

MuseumSiam Reflections

รวบรวมวิดีทัศน์จากงานประชุมวิชาการและงานสัมมนาที่จัดโดยมิวเซียมสยาม เพื่อร่วมเรียนรู้และตรึกตรองแง่มุมทางวิชาการไปกับมิวเซียมสยาม

Loading...
Thumbnail Image

MuseumSiam Revelations

รวบรวมเรื่องเล่าของเรื่องราวในชีวิตผ่านการเปิดเผยตัวตนของบุคคลที่น่าสนใจที่คัดสรรโดยมิวเซียมสยาม

 

Recent Submissions

ItemOpen Access
แนะนำหนังสือ บันทึกลับของแอนน์ แฟร้งค์ D810.J4 .ฟ84 2564
แฟร้งค์, แอนน์
สำหรับหนังสือ บันทึกลับของ แอนน์ แฟร้งค์ แปลโดยสังวรณ์ ไกรฤกษ์ ที่ได้พูดถึงชีวิตของแอนน์ แฟร้งค์ เด็กหญิงที่ได้เริ่มเขียนบันทึกในวัย 13 ปี ก่อน 2 ปีต่อมา เธอและครอบครัวจะถูกคุมตัวไปยังค่ายเอ๊าส์วิตส์ในโปแลนด์ และไม่ได้ออกมาจากค่ายนั้นอีกเลย จนกระทั่งบิดาของแอนน์ได้นำบันทึกของเธอออกมาตีพิมพ์ตามการร้องขอของศาสตราจารย์คนหนึ่งของมหาวิทยาลัยดัตช์ เพื่อเป้นการเปิดเผยความโหดร้ายของสงครามและความโหดร้ายของนาซีให้โลกรู้ ในตอนแรกนั้นไม่มีสำนักพิมพ์ไหนรับพิมพ์เนื่องจากสำนักพิมพ์เหล่านั้นเชื่อว่าไม่มีใครอยากรู้ความโหดร้ายของสงครามอีกแล้ว แต่บิดาของแอนน์ก็ได้หาสำนักพิมพ์ที่พิมพ์บันทึกดังกล่าวจนได้ ซึ่งเมื่อได้ตีพิมพ์ออกมาเป็นภาษาดัตช์แล้ว ก็ได้มีผู้นำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน รวมไปถึงภาษาไทย โดยในปัจจุบันได้มีการนำเอาเรื่องดังกล่าวมาต่อยอดเป็นภาพยนตร์ ละครเวที รวมไปถึงการเล่าเรื่องในพอดแคสต์อีกด้วย
ItemOpen Access
แนะนำหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 (เลขเรียกหนังสือ DS570.3.47 พ435 2557)
เซไรดารีส,ลีซองตร์ เช
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และเจ้านายไทยในโลซานน์ บันทึกความทรงจำของครูส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ 9 โดยลีซองดร์ เซ. เซไรดารีส ซึ่งเป็นบุตรคนสุดท้องของเกลย์อง เซ. เซไรดารีส ครูส่วนพระองค์ของในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ที่ได้รวบรวมเรื่องราวในวัยเด็กของในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 โดยในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 นั้น มีอายุห่างกันแค่ 2 ปี จึงทำให้ทั้ง 2 พระองค์ทรงโตด้วยกัน เล่นด้วยกัน รวมไปถึงทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ผ่านการเล่าเรื่องของครูส่วนพระองค์ ซึ่งภายในหนังสือยังมีรูปภาพส่วนพระองค์ที่หลายๆภาพยังไม่เคยปรากฏในเล่มไหนมาก่อน อีกทั้งยังมีจดหมายส่วนพระองค์ที่รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ได้เขียนหาครูของพวกเขา บอกเล่าการเดินทางและการใช้ชีวิตในเมืองไทย ในช่วงที่ทั้ง 2 พระองค์เสด็จนิวัติพระนคร
ItemOpen Access
หนังสือ พระแก้วมรกต (เลขเรียกหนังสือ BQ5125 B8 055 2546 ฉ.1)
พิเศษ เจียจันทร์พงษ์
หนังสือศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษที่ได้รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับพระแก้วมรกตจากพื้นที่ต่างๆ มารวบรวมเอาไว้ ซึ่งหนึ่งในบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระแก้วมรกตนั่นคือบทความเรื่อง ประตูผีและหน้าที่ของพระแก้วมรกต โดย พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ ที่ทำให้เราได้เห็นคติความเชื่อเรื่องประตูผี ซึ่งไม่ได้มีแค่กรุงรัตนโกสินทร์เท่านั้น แต่ในเมืองเก่าต่างๆ ในดินแดนประเทศไทย ล้วนก็มีความเชื่อเรื่องประตูผี และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำหน้าที่ป้องกันสิ่งไม่ดีในเมือง ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ สุโขทัย กรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงกรุงเทพมหานคร “ประตูผีจะต้องมีองค์ประกอบร่วมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในตัวเมือง โดยมีทิสทางหันหน้าตรงไปยังช่องประตู ซึ่งให้ความหมายเกี่ยวกับความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมืองภายใต้การคุ้มครองของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น”
ItemOpen Access
แนะนำหนังสือ ความทรงจำ DS582 ด65 2546 ฉ.1
ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา
หนังสือ ความทรงจำพระนิพนธ์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงบันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวเกี่ยวกับช่วงเวลาของการย้ายศาลเจ้าพ่อเสือไว้ว่า “การขยายถนนบำรุงเมืองนั้นมีเรื่องที่ควรจะเล่าได้เรื่อง ๑ คือเดิมมีศาลของพวกจีนเป็นตึกใหญ่อยู่ริมถนนบำรุงเมืองแห่งหนึ่งเรียกกันว่า ศาลเจ้าเสือ กีดทางที่จะขยายถนน จึงพระราชทานที่หลวงแห่งหนึ่งริมถนนเฟื่องนครให้ย้ายศาลเจ้าเสือมาตั้ง และจะสร้างศาลใหม่พระราชทานแทนศาลเดิม แต่พวกจีนไม่พอใจจะให้ย้าย คิดอุบายให้จ่าเข้าคนทรงพูดจาพยากรณ์ว่าจะเกิดภัยอันตรายต่างๆ จนเกิดหวาดหวั่นกันในหมู่พวกจีนสำเพ็ง ขอแห่เจ้าเอาใจมิให้คิดร้ายก็พระราชทานให้ตามประสงค์” ในการแห่ดังกล่าว ในหลวงรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จออกทอดพระเนตร ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกอย่างหนึ่งคือ ภายหลังการแห่เจ้าแล้ว รัชกาลที่ 5 ได้ให้กรมเมืองประกาศเอาผิดกับกับคนทรง ถ้ายังพยากรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้าย นั่นเลยทำให้ไม่มีใครกล้าพยากรณ์ถึงเหตุร้ายจากการย้ายศาลเจ้าอีก และทำให้ศาลเจ้าพ่อเสือตั้งอยู่ริมถนนเฟื่องนครจนถึงปัจจุบัน
ItemOpen Access
แนะนำหนังสือ ตึกเก่า-โรงเรียนเดิม (เลขเรียกหนังสือ LB3219 ย75 2557)
ยุวดี ศิริ
หากพูดถึงทรงวาด หนึ่งในย่านชุมชนชาวจีนเก่าแก่ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่เต็มไปด้วยตึกและอาคารสถาปัตยกรรมตะวันตก เนื่องจากเป็นรูปแบบที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 และหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่อยู่คู่กับถนนเส้นนี้คงนี้ไม่พ้นอาคารโรงเรียนเผยอิง จากหนังสือ ตึกเก่า-โรงเรียนเดิม โดย ยุวดี ศิริ ได้เล่าถึงรูปแบบอาคารของโรงเรียนเผยอิงไว้ว่า “โดยหากพิจารณาจากรูปทรงทางสถาปัตยกรรมก็อาจจะเห็นแปลกตา ทั้งนี้เนื่องจากอาคารหลังดังกล่าวถูกก่อสร้างขึ้นเป็นอาคารทรงฝรั่ง แต่ก่อสร้างอยู่ในโรงเรียนของชาวจีน แต่หากได้มีการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ของอาคารสถานศึกษาช่วงปลายรัชกาลที่ 5 อันเป็นช่วงที่มีการเปิดโรงเรียนขึ้นเป็นจำนวนมากก็จะเข้าใจได้ว่า การก่อสร้างอาคารทรงฝรั่งของสถานศึกษาในยุคนั้นเป็นเรื่องตามความนิยม โดยเฉพาะการวางผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเน้นโถงทางเข้าตรงกลาง ด้านบนมีหน้าบันขนาดใหญ่ ที่ยังปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน อาทิเช่น อาคารสุนันทาลัย โรงเรียนราชินี อาคารกรมแผนที่ทหาร โรงเรียนทหารสราญรมย์ อาคารพระพุทธเจ้าหลวง โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เป็นต้น”